บาร์เซโลน่า ยังคงเป็นดาวเด่นของตลาดซื้อขายนักฟุตบอลรอบนี้ เพราะท่ามกลางสภาพปัญหาการเงินที่เรื้อรัง พวกเขายังคงเดินหน้าล่านักเตะชื่อดังเข้าสู่ทีมอย่างไม่หยุดยั้ง แถมยังรักษาแข้งตัวหลักไว้กับทีมได้อีก
หนึ่งในข่าวซื้อตัวที่น่าสนใจที่สุดของบาร์ซ่าในขณะนี้ย่อมหนีไม่พ้นความเคลื่อนไหวที่พวกเขามีต่อ ลิโอเนล เมสซี่ ตำนานหมายเลข 10 ของทีม ซึ่งมีกระแสออกมาอย่างต่อเนื่องว่าจะกลับมาสวมเสื้อของทัพอาซูลกราน่าในฤดูกาลหน้าอีกครั้ง
Main Stand จะชวนมาพูดถึงโอกาสการกลับมาสู่ถิ่นคัมป์ นู อีกครั้งของเมสซี่ และสิ่งที่บาร์เซโลน่าต้องจัดการหากพวกเขาคิดคว้าซูเปอร์สตาร์ค่าตัวมหาศาลรายนี้เข้ามาสู่ทีม…
สิ่งแรกที่ทุกคนควรเข้าใจเกี่ยวกับการกลับมาสู่บาร์เซโลน่าของ ลิโอเนล เมสซี่ ตำนานหมายเลข 10 แห่งคัมป์ นู ที่ไม่มีทางจะกลับมาสู่สโมสรที่เขารักภายในฤดูกาล 2022-23 หรือถ้าจะสรุปให้ง่ายกว่านั้นคือแฟนบอลบาร์เซโลน่าจำเป็นต้องรอต่อไปอีกหนึ่งปี หากหวังจะได้เห็นเมสซี่กลับมาโลดแล่นให้กับทีมอีกครั้ง
เหตุผลง่าย ๆ ที่ทำให้การย้ายทีมในฝันของใครหลายคนจะยังไม่เกิดขึ้นในฤดูกาลนี้แม้เมสซี่จะมีความเคลื่อนไหวหลายอย่างที่พัวพันกับบาร์เซโลน่า (เช่น การเลือกเดินทางมาพักร้อนกับครอบครัวที่นี่) เป็นเพราะเขายังเหลือสัญญาอีกหนึ่งปีกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ต้นสังกัดปัจจุบันของเจ้าตัว
เนื่องด้วยปัญหาการเงินที่นำมาสู่ดราม่ามากมายในขณะนี้ จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่บาร์เซโลน่าจะควักเงินจำนวนหนึ่งเพื่อซื้อตัวเมสซี่มาจากเปแอสเช โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าเหนื่อยมหาศาลของเจ้าตัวที่ปัจจุบันรับอยู่ในถิ่นปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ เป็นจำนวน 40.5 ล้านยูโรต่อปี หรือเกือบ 1,500 ล้านบาทต่อปี ซึ่งมากกว่าค่าเหนื่อยเจ้าปัญหาของ แฟรงกี้ เดอ ยอง เกินสองเท่าเสียด้วยซ้ำ เนื่องจากแข้งชาวดัตช์รับเงินแค่ 18 ล้านยูโรต่อปี
การอดทนรอเพื่อให้เมสซี่หมดสัญญากับเปแอสเชหลังจบฤดูกาลนี้แล้วค่อยเจรจาหาความเป็นไปได้เพื่อดึงเขากลับสู่คัมป์ นู จึงเป็นทางเลือกที่สมเหตุสมผลมากกว่าในแง่ของการเงินซึ่งถือเป็นความสำคัญหลักของบาร์เซโลน่าในขณะนี้ และเมื่อดูแนวโน้มการย้ายทีมที่เพิ่งสูงขึ้นจากท่าทีของเมสซี่ในระยะหลัง ยิ่งทำให้ผู้บริหารบาร์เซโลน่ามีความมั่นใจสูงว่าการดึงเมสซี่กลับมาสู่ทีมในฤดูกาลหน้าแบบฟรี ๆ มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง
สัญญาณชัดเจนที่สุดซึ่งบ่งบอกว่าเมสซี่คงไม่ได้ไปต่อกับปารีส แซงต์ แชร์กแมง คือเงื่อนไขการขยายสัญญาที่ระบุเอาไว้ว่าแข้งชาวอาร์เจนตินาสามารถยืดสัญญาออกไปได้อีกหนึ่งปีหากเจ้าตัวต้องการ แต่ตลอดช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาไม่เพียงเมสซี่จะไม่มีท่าทีจะขยายสัญญากับเปแอสเชออกไป แต่ยังมีข่าวหนาหูว่าเจ้าตัวจะหันหลังให้กับฟุตบอลยุโรปเพื่อไปโลดแล่นบนโลกลูกหนังรอบสุดท้ายบนแผ่นดินสหรัฐอเมริกากับ อินเตอร์ ไมอามี่ ทีมฟุตบอลของ เดวิด เบ็คแฮม ในศึกเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์
เหตุผลเดียวที่ทำให้ข่าวของเมสซี่กับอินเตอร์ ไมอามี่ เงียบหายไปคือความสนใจจากบาร์เซโลน่าที่ต้องการดึงตัวนักเตะรายนี้กลับมาสู่ทีมอีกครั้ง โดยในรอบเดือนที่ผ่านมาบุคคลสำคัญของทีมทั้ง ชาบี เอร์นานเดซ ผู้จัดการทีมและอดีตเพื่อนร่วมทีมของเมสซี่ รวมถึง โจน ลาปอร์ต้า ประธานสโมสรคนปัจจุบันซึ่งเป็นบุคคลที่เมสซี่เคารพรัก ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเขาต้องการเมสซี่กลับสู่ทีมอีกครั้ง ซึ่งทางเมสซี่ก็ดูมีท่าทีตอบสนองชัดเจนว่าเขาก็เปิดโอกาสในการกลับมาสู่ทีมเช่นกัน
เมื่อสถานการณ์เป็นใจแบบนี้บาร์เซโลน่าจึงมีเวลาราวหนึ่งปีที่จะจัดการปัญหาหลังบ้านให้หมดไปเพื่อจะนำเมสซี่กลับสู่ทีมอีกครั้ง โดยเฉพาะปัญหาการเงินที่คาราคาซังอยู่ในขณะนี้ เพราะต่อให้เมสซี่ย้ายกลับสู่ทีมโดยไม่มีค่าตัวและใจถึงยอมลดค่าเหนื่อยลงครึ่งหนึ่งจากที่รับในปัจจุบันกับเปแอสเช บาร์เซโลน่าก็ยังต้องจ่ายเงิน 20.25 ล้านยูโร ซึ่งแน่นอนว่าเป็นจำนวนที่มากกว่าค่าเหนื่อยในปัจจุบันของแฟรงกี้ เดอ ยอง อยู่ดี
หันกลับมามองสถานะทางการเงินของบาร์เซโลน่าในปัจจุบัน สโมสรแห่งนี้ยังอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง เพราะสโมสรยังคงมีหนี้ค้างชำระอยู่เป็นจำนวนราว 1,500 ล้านยูโร หรือราว 55,000 ล้านบาท แถมบัญชีค่าเหนื่อยนักเตะในปัจจุบันยังไม่ผ่านกฎการเงินของ UEFA และกฎเพดานค่าเหนื่อยอันเคร่งครัดของลา ลีกา นำมาสู่ปัญหาการบีบบังคับให้แฟรงกี้ เดอ ยอง ต้องลดค่าเหนื่อยให้ไม่เกิน 10 ล้านยูโรต่อปีตามนโยบายค่าเหนื่อยในปัจจุบัน
ทั้งนี้ทั้งนั้นบาร์เซโลน่ายังมีโอกาสเอาตัวรอดไปได้ในฤดูกาลนี้ เนื่องด้วย “คันโยกเศรษฐกิจ” ที่สโมสรเปิดใช้งานมาแล้วสามครั้ง นั่นคือการขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดลา ลีกา ของสโมสร 10 และ 15 เปอร์เซ็นต์ ให้กับ Sixth Street เป็นเวลา 25 ปี แลกกับเงิน 267 และ 400 ล้านยูโร, การขายหุ้น Barca Studios จำนวน 24.5% ให้กับ Socios.com เป็นจำนวนเงิน 100 ล้านยูโร และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดบาร์เซโลน่าเตรียมจะเปิดใช้งานคันโยกที่ 4 ภายในเร็ววันนี้เพื่อให้ทีมเดินหน้าต่อไปได้ในฤดูกาลปัจจุบัน
ข้อมูลจาก https://www.sanook.com/